FLY AWAY, FAR AWAY

วันที่ 11 มีนาคม 2011....
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย การออกผจญภัยก็เริ่มต้นขึ้น......

ไฟล์ทบินของเราและเพื่อนคือ วันที่ 11 มีนาคม 2011 เวลา ตี 2 พอดีเป๊ะ โดยสายการบิน Korean Airline. ครอบครัวของเราก็นั่งรถไปส่งที่สนามบินกันอย่างพร้อมหน้า ไม่รู้ว่าเห่อหรือกลัวตกเครื่องจัด ไปถึงสนามบินก็เพิ่งจะ 4 ทุ่มกว่าๆเอง....ก้าวแรกของเราที่สนามบินสุวรรณภูมิครั้งนี้ ตื่นเต้นกว่าครั้งก่อนๆที่เคยมาวิ่งเล่นที่นี่มากๆๆ คงเป็นเพราะครั้งนี้คนเดินทางกลับเป็นตัวเราเสียเองล่ะมั้ง :) เราเดินผ่านไปจุดที่ทางสนามบินมีบริการ wrap กระเป๋าเดินทาง สำหรับผู้โดยสารที่ต้องบินไกล และแวะเปลี่ยนเครื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้กระเป๋าเสียหายจากการกระแทกจนเปิด หรือป้องกันการคุ้ยค้นของเจ้าหน้าที่ อิอิ เรา wrap กระเป๋าไป 2 ใบ ที่ต้องโหลดไว้ใต้เครื่อง ราคาใบละ 200-300 บาท แต่ก็ทำให้กระเป๋าดูแน่นหนา ถือว่าเป็นการป้องกันอีกขั้นนึง...

หลังจากนั่งรอ นั่งเล่นกันจนถึงเที่ยงคืน พี่ๆจากเอเจนซี่ก็เดินทางมาถึง เพื่อเอาตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต และเอกสารต่างๆที่ต้องใช้ระหว่างเดินทางมาแจกจ่ายให้กับน้องๆ หลังจากนั้น เรากับเพื่อนก็ไม่รอช้า เดินเข้าไปเชคอิน ด้วยกลัวว่าถ้าเกิดรอให้ใกล้ๆเวลาขึ้นเครื่องกว่านี้แล้วแถวจะยาว...ตอนชั่งน้ำหนักกระเป๋าก็หวั่นๆนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าคำนวนมาดีแล้วคงไม่พลาด เพราะถ้าพลาดก็คงเรื่องยาว เพราะอย่าลืมว่า...ตรู wrap กระเป๋าไปแล้วว!

หลังจากเชคอินเสร็จ ก็ออกมาถ่ายรูปเล่นกันอีกนิดหน่อยกับบรรดาเพื่อนสาวที่ไปส่ง...

งานนี้มีเรื่องน่าตื่นเต้นคือ ระหว่างที่เรากำลังถ่ายรูปเล่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดังมากกก มากจากชั้นของผู้โดยสารขาเข้า ด้วยสัณชาตญานเก่า = = " เราก็รู้ได้ทันทีว่า "ดารา" ใครซักคนนึงต้องมาโผล่อยู่ท่ามกลางเสียงกรี๊ดแน่ๆ ยังไม่ทันที่เราจะพูดอะไรออกมา กลุ่มเพื่อนตัวดีที่เมื่อกี๊ยังยืนถ่ายรูปกันอยู่ดีๆก็ิวิ่งหน้าตั้งไปตามเสียงกรี๊ด....หายไปสักพักก็กลับมาพร้อมกับบอกว่า น่าจะเป็น 2AM ศิลปินจากประเทศเกาหลีที่เดินทางมาแสดงคอนเสิร์ต MBC In Thailand...เราก็ได้แต่ยืนอมยิ้ม แล้วก็คิดในใจ ดีนะไม่เป็นเอสเจ หรือทงบัง หรือพารัน หรือบิ๊กแบง ไม่งั้นล่ะตรูวิ่งแน่นอน!!

เวลาเที่ยงคืนตรง...

เรากับเพื่อนตัดสินใจโบกมือลาครอบครัวและเพื่อนฝูงที่มาส่งเพื่อจะไปเชคอินเข้าเกทและรอขึ้นเครื่องข้างใน ถึงตอนนี้ใจก็แอบโหวงเหวงเล็กน้อย เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางไปไกลขนาดนี้เพียงลำพังกับเพื่อนสาวอีก 1 คน...แอบเห็นแม่ของเพื่อนสาวน้ำตาซึม ก็ทำเราน้ำตาซึมไปด้วย

หลังจากร่ำลากันเป็นที่เรียบร้อย เราก็เดินเข้าเกท ผ่านตมไปยังโซนดิวตี้ฟรี เนื่องจากเราเข้าเกทมาเร็วมาก ก็เลยมีเวลาเดินเล่นดูของในดิวตี้ฟรี (แต่ไม่ซื้อ)กันนิดหน่อย ระหว่างทางเดินไปจะไปรอขึ้นเครื่อง ก็ได้ยินเสีงกรี๊ดอีกแล้ว ดังมาจากชั้นล่างใต้เราเลย เรากับเพื่อนจึงชะโงกหน้าลงไปดู ก็กลายเป็นว่า เห็นสาวๆเกิร์ลเจเนเรชั่นที่เดินทางมาร่วมคอนเสิร์ตกำลังเดินผ่านพร้อมด้วยฝูงแฟนคลับไม่เยอะมาก (ที่พอมีเส้นเข้ามาในเกทของสนามบินได้) ล้อมหน้าล้อมหลัง เห็นแล้วก็ได้แต่คิดว่า ขนาดไม่แต่งหน้ายังออร่าจัดกันจังวุ๊ย.....

เรากับเพื่อนพากันหอบข้าวของมานั่งตรงที่นั่งรอขึ้นเครื่อง ไฟล์ทบินของเราวันนี้ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ ขนาดไฟล์ทตี 2 ยังคนเยอะมาก! เราแอบมองสำรวจก็พอจะเกทได้ว่าบางกลุ่มก็คงจะเป็นเด็กเวิร์คเหมือนกับเรานะแหละ บางคนก็ไปคนเดียวแบบเหงาๆ บางคนก็มากับเพื่อนกลุ่มใหญ่ก็เฮฮากันน่าดู เรากับเพื่อนสาวก็ได้แต่นั่งเงียบ ถ่ายรูปเล่นกันบ้าง นั่งงีบกันบ้าง แล้วก็คุยกันวางแผนกันว่าถ้าไปถึงแล้วจำเอาไงดี จะทำยังไงกับกระเป๋าสองใบใหญ่ควาย.....การนั่งรออยู่เฉยๆโดยไม่มีอะไรทำเีนี่ย มันทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าซะเหลือเกิน.......

เวลาตีสอง

พนักงานบริการก็มายืนโค้งคำนับ ชูป้าย เปิดประตูให้พวกเราทะยอยเดินขึ้นเครื่อง ถึงตอนนี้ต้องยอมรับแล้วแหละว่าตื่นเต้นมากกกกก เกิดมาเพิ่งจะเคยได้นั่งเครื่องบินกับเขานี่แหละ...ถึงแม้ที่นั่งจะอยู่ท้ายลำไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่เป็นที่นั่งติดหน้าต่างแหละวุ้ย :))




Comments

Popular Posts