UKRAINIAN vs PERUVIAN!

หลังจากเก็บกระเป๋าไว้ในห้องเรียบร้อยแล้ว เราทั้งหมดก็มาตกลงกันว่าเราจะเอาอาหารที่แบกมา มารวมกันเพื่อจะได้ทำกินด้วยกัน แบ่งกันกิน ส่วนอาหารที่ต้องซื้อเราก็จะเก็บเงินรวมกันเป็นรายอาทิตย์นำไปซื้อแล้วมาใช้ร่วมกัน ซึ่งเราว่าเป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว เพราะจะช่วยให้ประหยัดไปได้อีกมาก ใครสนใจก็ลองนำวิธีนี้ไปใช้ดูนะ

ระัหว่างนั้นชายผมทอง ตาฟ้า รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาก็เดินเข้ามาในบ้าน ทุกคนได้แต่มองแล้วก็พากันเงียบ จนนึกขึ้นมาได้ว่า เพนนีเคยบอกว่า บ้านนี้นอกจากพวกเราแล้วยังมี อเล็กซ์กับปีเตอร์อยู่ด้วย! เรากับเพื่อนตัดสินใจทำลายความเงียบด้วยการเอ่ยทักออกไป "Hi" สั้นๆแต่ได้ใจความ จนสรุปได้ว่า พ่อตาฟ้าเนี่ยชื่อ อเล็กซ์ เป็นยูเครนที่ทำงานอยู่ที่เวนดี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้มาเวิร์คเหมือนพวกเรานะ คือโดดวีซ่ามาเองเพื่อมาทำงานในเมกาโดยเฉพาะ แว๊บแรกก็ อุ๊ยยยหล่อจัง! แอบกรี๊ดกร๊าดกับเพื่อนในใจอย่างดังๆว่า หล่อจังเว๊ยยยย ฮุ้ยย อยากได้!

จากนั้นเรากับเพื่อนและน้องๆอีก 3 คนก็ชวนกันออกไปเดินซุปเปอร์มาเกตแถวบ้าน เพื่อซื้อของมาทำอาหารเย็นกินกัน และเนื่องในโอกาสพิเศษวันคล้ายวันเกิดของน้องจอร์ชด้วย

ไอศครีมเยอะมากๆหลายรส หลายยี่ห้อ เลือกไม่ถูก..

ของ Starbucks ก็มีนะ :)

จากการเดินสำรวจพบว่า ราคาของสดของซุปเปอร์ฯที่นี่ไม่แพงอย่างที่คิด โดยเฉพาะเนื้อไก่จะถูกมากกก และทุกวันศุกร์จะมีจัดรายการลดราคาพิเศษอีกด้วย และก็เจอพวกเครื่องปรุงนำเข้าจากโซนเอเชีย มีให้เลือกหลายแบบ จากไทยก็มี แต่ราคาก็แพงเกิ๊น โชคดีที่ตุนเครื่องปรุงรสมาหลายแบบ ทำให้ไม่ต้องเสียเงินซื้อของที่ซื้อในไทยได้ถูกมาก!

ซุปเปอร์มาเกตที่นี่ นอกจากจะมีของขายหลากหลายและหลายชนิดแล้ว (เช่นขนมปังนี่มีให้เลือกหลายแบบมาก คือทั้งโซนจะมีขายแต่ขนมปังเลย เลือกเอาว่าชอบแบบไหน ส่วนเราชอบแบบไหนก็ได้ที่ลดราคาแล้ว อิอิ) สิ่งที่เราชอบมากกกกนั่นก็คือ Self-check หรือการคิดตังค์ด้วยตัวเองนั่นเอง 

ช่อง self-check!

โดยวิธีการก็คือ แตะบัตรสมาชิกของซุปเปอร์ฯ (เหมือนพวกบัตรสมาชิกโลตัส) จากนั้นก็นำสินค้าที่เราต้องการจะคิดเงินมาสแกนบาร์โค้ดเข้าไป แล้วก็ปล่อยให้มันไหลไปตามรางเลื่อน จนไปสุดรางก็เอาถุงหรือถุงกระดาษมาหยิบของใส่ จากนั้นก็กดเลือกวิธีการจ่ายเงินว่าจะจ่ายเงินสด หรือจ่ายด้วยบัตร แล้วก็รอรับใบเสร็จ แค่นี้เอง ง่ายใช่ม๊ะ? หุหุ

ถ้าเราเลือกที่จะจ่ายด้วยบัตรเรายังสามารถเลือกได้อีกว่า หลังจากจ่ายเงินไปแล้ว เราต้องการ Cash Back มั๊ย? ซึ่ง Cash Back ก็คือ การกดเงินสดออกมาเหมือนกดจากตู้ ATM นั่นแหละ แ่ต่ที่เมกาสะดวกสบายและง่ายมาก เพราะสามารถ Cash Back ได้แทบทุกร้านที่เราไปซื้อของและจ่ายด้วยบัตร และที่ประทับใจกว่านั้นคือ ไม่ว่าจะซื้อของเป็นเงินเท่าไหร่ก็สามารถรูดบัตรได้! เพราะเราเคยไปซื้อเบอร์เกอร์ที่ Wendy's ราคา $1.99 ลด 50% สำหรับพนักงาน ก็จะเหลือราคาไม่ถึงเหรียญ ประมาณ $0.98 (ไม่ถึง 30 บาท) ก็สามารถรูดบัตรได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวเลย สบายจริงๆ ฮี่ฮี่...

แต่ในข้อดีก็มีข้อเสีย สำหรับการพกแต่บัตรเดบิตเนื่องจากบัตรเดบิตเนี่ยสามารถใช้รูดซื้อของได้แทบทุกที่ ไม่ว่าจะร้านเล็ก ร้านใหญ่ ถ้าเผื่อบัตรหายก็น่ากลัวพกควร เพราะคนอื่นอาจเอาบัตรเราไปรูดปรื๊ดรูปปรื๊ดได้อย่างง่ายดาย หรือสามารถเอาไปซื้อของทางอินเตอร์เนตได้ง่ายมาก (เพราะน้องคนนึงในบ้านเคยโดนหลอกขอเลขบัตรเดบิตและโดนเอาไปใช้รูดซื้อของมาแล้ว!) 

กลับมาที่เรื่องราวชีวิตของเรากันต่อ หลังจากซื้อของและสนุกสนานกับการคิดเงินเสร็จแล้ว เราทั้งหมดก็พากันกลับบ้าน โดยเมนูอาหารที่จะทำวันนี้นั้นขอเป็นอะไรที่ง่ายๆ เพราะแต่ละคนก็เหนื่อยจากการเดินทางมามากแล้ว เลยลงตัวกันที่ไข่เจียวกับผัดกระเพราะไก่!

พ่อครัวและแม่ครัวของเรา :)

ในขณะที่เรากำลังจัดจานชามกันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงประตูบ้านด้านหน้าเปิด เหมือนมีคนเข้ามาในบ้าน แล้วก็มีเสียงกุกๆๆเหมือนคนกำลังวิ่ง ซักพักไอ้เสียงกุกๆก็ิวิ่งเข้ามาในบ้านมาเจอกับพวกเราที่นั่งล้อมวงเตรียมกินข้าวกันอยู่ เป็นผู้ชายผมดำ หน้าตาตี๋ๆ มองแวบแรกเหมือนเกาหลี ญี่ปุ่นอะไรเทือกนั้น แต่สรุปได้ว่า พ่อหนุ่มผมดำเนี่ยชื่อ ปีเตอร์ เป็นเด็กเวิร์คชาวเปรูที่มาทำงานที่ Wendy's เหมือนกัน อร๊างงง

Peter!

เมื่ออาหารพร้อม คนก็พร้อม มื้อนี้เรามีแขกรับเชิญจากต่างชาติมาอีก 2 และโอกาสพิเศษอีกอย่างนึงนั่นก็คือวันเกิดของน้องจอช น้องชายที่น่ารักของพวกเรานั่นเอง น้องจอชมาเรียนอยู่ที่ New Hampshire แต่แฟนของน้องจอชมาเวิร์คที่เมืองนี้ น้องเลยนั่งรถมาหา ยังไงก็แฮปปี้เบิ๊ดเดย์นะค่ะ มีความสุขมากๆ พี่ยินดีที่ได้รู้จักน้องชายที่น่ารักคนนี้มากๆเลยค่ะ

Happy Birthday!


Comments

Popular Posts