Wendy's WORLD (ep.2)
Welcome to WENDY'S WORLD!!! ตอนที่ 2 ขอเรียกว่า "Back of the house" เบื้องหลังร้านฟาสฟู๊ด....
อย่างที่บอกว่า ตำแหน่งแรกที่เราได้เข้ามาทำในเวนดี้นั้นคือ Fried Station หรือ คนทอดเฟรนซ์ฟราย แต่พออยู่มานานเข้าๆ เราก็สามารถปรับเปลี่ยนไปทำสเตชั่นตำแหน่งอื่นๆได้ เรียกได้ว่า เราได้มีโอกาสดีๆที่ได้ทำงานตำแหน่งอื่นๆแทบจะทุกตำแหน่งในร้านเลยก็ว่าได้ (ยกเว้นงาน PC ที่ต้องแบกหาม เพราะจำกัดไว้ให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น กับงานในส่วนของเมเนเจอร์อ่ะนะ)
เริ่มจากตอนเข้างานเลย เมื่อผ่านประตูพนักงานมาแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือการ Clock-in ที่ Front Cashier เพื่อเป็นการบันทึกเวลาว่า เราเข้าทำงานกี่โมง เลทกี่นาที และเมื่อเลิกงานก็ต้องไม่ลืม Clock-out จากนั้นเราก็จะได้สลิปเป็นเหมือนสรุปรายละเอียดว่า สัปดาห์นี้เราทำงานมาแล้วกี่ชั่วโมง สรุปง่ายๆคือเหมือนการตอกบัตรเข้าทำงานทั่วไป แต่ทีนี่เราจะโดนคิดค่าแรงเป็นชั่วโมง ดังนั้นการมาทำงานแต่เช้า และเลิกงานให้เกินเวลา(ที่ควรจะเลิก) จะส่งผลให้เราได้ OT หรือ Over Time ในตอนปลายสัปดาห์ ซึ่งค่าแรงที่ได้เป็น OT นั้น จะมากกว่าค่าแรงปกติที่ได้รับ เช่น ค่าแรงปกติได้รับชั่วโมงละ $8.5 ให้ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง แต่พอถึงปลายสัปดาห์สลิปเวลาการทำงานของเราเกินมาเป็น 42 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงที่เกินมา เราจะได้ค่าแรงเป็นเรท OT คือ $11 นั่นเองค่ะ
ซึ่งการจะทำงานให้ได้ OT เนี่ย เป็นเป้าหมายของเด็กไทยตาดำๆอย่างเรามาก เนื่องจากเราหางานที่ 2 ไม่ได้ และค่าแรงที่มากกว่าปกตินั่นเอง โดยผู้จัดการร้านจะเป็นคนจัดตารางเวลาให้ ถ้าเราทำงานดี ขยัน อดทน ผู้จัดการก็จะจัดตารางเวลาให้เราได้ทำงานค่อนข้างเยอะ (ส่วนมากที่ Wendy's จะให้คนละ 30-40 ชั่วโมงอยู่แล้ว) รวมถึงได้ตำแหน่งทำงานดีๆด้วย นอกเหนือจากนั้นเวลามีพนักงานลากิจ หรือลาป่วยกระทันหันแล้วเค้าต้องการคนมาทำงานแทน เราก็จะได้รับเลือกเป็นอันดับต้นๆ ส่งผลให้สัปดาห์นั้นๆเราได้ OT อย่างแน่นอน แอบกระซิบว่าเรากับเพื่อนสาวกิน OT สบายๆแทบทุกวีค! (เคยทำสถิติสูงสุดก็ 50 ชั่วโมงนิดๆ) แถมเรายังพ่วงตำแหน่ง Best Fried Station Staff and Best Drive-Through Cashier ด้วยนะเอออ!!
จากรูปเริ่มจากด้านขวา จะเป็น Cashier 1 และ 2, Front Sandwich Station, Grill Station (สเตชั่นนี้ส่วนมากจะเป็นพนักงานผู้ชาย แต่เราเคยขอลองทำอยู่ประมาณชั่วโมงนึงค่ะ)
ฝั่งด้านซ้ายจะเป็น Frosty Machine, Salad & Chilli และ Fried Station ค่ะ
หลังจากที่เป็นคนทอดเฟรนซ์ฟรายอยู่พักใหญ่ๆ ผู้จัดการก็เมตตา (ฮ่าๆ) ให้เราได้ลองมาทำในส่วนของ Cashier ตรง Window Drive Through อยากบอกว่าตอนแรกเราคิดว่ามันยากมากๆๆ เพราะมันต้องทำให้รวดเร็วและถูกต้อง กล่าวทักทาย คิดเงิน ทอนเงิน ส่งของให้ลูกค้า ต้องเร็วมากๆๆ เพราะจะมีคนคอยกดดัน มีการจับเวลา และแถวรถที่ต่อกันยาวเหยียด ช่วงแรกเราทำเงินหายไปวันละ $10 ให้ของลูกค้าไม่ครบจนลูกค้าขับรถกลับมาด่า (ฮ่าๆ) ทอนเงินผิดๆถูกๆ โดนเรียกไปดุต่างๆนาๆ แต่หลังจากนั้นเราก็ค่อยๆเรียนรู้ จนเริ่มชินกับมัน และสามารถทำลายสถิติ กลายเป็นทีม Drive Through ที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดถึง 2 ครั้ง! (ครั้งแรกคือทำลายสถิติคนอื่น ครั้งที่สองคือทำลายสถิติตัวเอง)
ดังนั้น ก็อยากบอกว่า คนเราไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด เราทุกคนสามารถทำผิดได้ อยู่ที่ว่าเราเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้นมากแค่ไหน ต้องรู้จักอดทน อยู่บ้านเราสบาย แต่อยู่ที่โน่นไม่มีคำว่าสบายนะคะ เราคิดยังไงกับพนักงาน Mc,KFC หรือฟาสฟู้ดอื่นๆในบ้านเรา คนที่โน่นบางคนเค้าก็คิดกับเราแบบนั้น เราอาจจะโดนลูกค้าด่า โดนหัวหน้าดุ โดนเพื่อนร่วมงานแกล้ง ขอแค่อย่างเดียวคือรู้จัก "อดทน" แล้วเราจะผ่านสิ่งต่างๆเหล่านั้นมาได้อย่างแน่นอนค่ะ (เดี๋ยวไว้จะเล่าให้ฟังว่าเพื่อนร่วมงานในร้านช่วงแรกๆเค้าแสบกะเราแค่ไหน!)
สำหรับเรื่องงาน Back of house ของ Wendy's ยังไม่หมดนะคะ ไว้เอนทรี่หน้าจะเขียนต่อเกี่ยวกับเรื่องของงาน Back of Back of House!? อย่าลืมติดตามนะคะ :)
อย่างที่บอกว่า ตำแหน่งแรกที่เราได้เข้ามาทำในเวนดี้นั้นคือ Fried Station หรือ คนทอดเฟรนซ์ฟราย แต่พออยู่มานานเข้าๆ เราก็สามารถปรับเปลี่ยนไปทำสเตชั่นตำแหน่งอื่นๆได้ เรียกได้ว่า เราได้มีโอกาสดีๆที่ได้ทำงานตำแหน่งอื่นๆแทบจะทุกตำแหน่งในร้านเลยก็ว่าได้ (ยกเว้นงาน PC ที่ต้องแบกหาม เพราะจำกัดไว้ให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น กับงานในส่วนของเมเนเจอร์อ่ะนะ)
เริ่มจากตอนเข้างานเลย เมื่อผ่านประตูพนักงานมาแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือการ Clock-in ที่ Front Cashier เพื่อเป็นการบันทึกเวลาว่า เราเข้าทำงานกี่โมง เลทกี่นาที และเมื่อเลิกงานก็ต้องไม่ลืม Clock-out จากนั้นเราก็จะได้สลิปเป็นเหมือนสรุปรายละเอียดว่า สัปดาห์นี้เราทำงานมาแล้วกี่ชั่วโมง สรุปง่ายๆคือเหมือนการตอกบัตรเข้าทำงานทั่วไป แต่ทีนี่เราจะโดนคิดค่าแรงเป็นชั่วโมง ดังนั้นการมาทำงานแต่เช้า และเลิกงานให้เกินเวลา(ที่ควรจะเลิก) จะส่งผลให้เราได้ OT หรือ Over Time ในตอนปลายสัปดาห์ ซึ่งค่าแรงที่ได้เป็น OT นั้น จะมากกว่าค่าแรงปกติที่ได้รับ เช่น ค่าแรงปกติได้รับชั่วโมงละ $8.5 ให้ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง แต่พอถึงปลายสัปดาห์สลิปเวลาการทำงานของเราเกินมาเป็น 42 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงที่เกินมา เราจะได้ค่าแรงเป็นเรท OT คือ $11 นั่นเองค่ะ
ซึ่งการจะทำงานให้ได้ OT เนี่ย เป็นเป้าหมายของเด็กไทยตาดำๆอย่างเรามาก เนื่องจากเราหางานที่ 2 ไม่ได้ และค่าแรงที่มากกว่าปกตินั่นเอง โดยผู้จัดการร้านจะเป็นคนจัดตารางเวลาให้ ถ้าเราทำงานดี ขยัน อดทน ผู้จัดการก็จะจัดตารางเวลาให้เราได้ทำงานค่อนข้างเยอะ (ส่วนมากที่ Wendy's จะให้คนละ 30-40 ชั่วโมงอยู่แล้ว) รวมถึงได้ตำแหน่งทำงานดีๆด้วย นอกเหนือจากนั้นเวลามีพนักงานลากิจ หรือลาป่วยกระทันหันแล้วเค้าต้องการคนมาทำงานแทน เราก็จะได้รับเลือกเป็นอันดับต้นๆ ส่งผลให้สัปดาห์นั้นๆเราได้ OT อย่างแน่นอน แอบกระซิบว่าเรากับเพื่อนสาวกิน OT สบายๆแทบทุกวีค! (เคยทำสถิติสูงสุดก็ 50 ชั่วโมงนิดๆ) แถมเรายังพ่วงตำแหน่ง Best Fried Station Staff and Best Drive-Through Cashier ด้วยนะเอออ!!
จากรูปเริ่มจากด้านขวา จะเป็น Cashier 1 และ 2, Front Sandwich Station, Grill Station (สเตชั่นนี้ส่วนมากจะเป็นพนักงานผู้ชาย แต่เราเคยขอลองทำอยู่ประมาณชั่วโมงนึงค่ะ)
ฝั่งด้านซ้ายจะเป็น Frosty Machine, Salad & Chilli และ Fried Station ค่ะ
ในส่วนของ Fried Station นั้น จากรูปทางด้านขวามือสุด ด้านบนจะเป็นที่เก็บเกลือ (ไว้โรยเฟรซ์ฟราย) และ ช่องสำหรับใส่กล่องเฟรนซ์ฟรายในไซส์ต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย Large,Medium,Small และ Value ในส่วนตรงกลางที่เป็นช่องๆนั้นเอาช่องยาวๆสองช่องด้านซ้ายเอาไว้ใส่เฟรนซ์ฟรายที่ทอดเสร็จแล้ว ช่องเล็กๆด้านขวาจะเอาไว้ใส่นักเก็ต โดยแบ่งย่อยเป็น นักเก็ตแบบธรรมดา และนักเก็ตแบบเผ็ด ด้านบนนักเกตจะเป็นที่สำหรับใส่ปลาทอด ไว้ใช้ทำเบอร์เกอร์นั่นเอง สำหรับด้านล่างสุดจะเป็นตู้เย็นขนาดเล็ก เอาไว้เก็บเฟรนซ์ฟรายและนักเกต จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปหยิบที่ตู้เย็นใหญ่ด้านหลังร้านนั่นเองค่ะ (แรกๆกะไม่ค่อยถูก ตุนไว้น้อยไป วิ่งกันให้วุ่นเลยทีเดียว)
ถัดมาในส่วนของเตาทอดจะมีทั้งหมด 3 ช่อง ช่องนึงใส่ตะแกรงทอดได้ 2 อัน โดยสองเตาที่ติดกับช่องใส่เฟรนซ์ฟรายจะเอาไว้ทอดเฟรนซ์ฟราย กับนักเก็ตเท่านั้น และเตาที่ 3 จะเอาไว้สำหรับทอดปลา กับนักเกต โดยเราต้องกดตั้งเวลาทุกครั้งที่ทอด ไม่เช่นนั้นมีเผลอลืม และไหม้แน่นอนคะ (จากนั้นผู้จัดการก็จะมาเหล่เอา)
ต่อมาเป็นส่วนของ Drive-Through คะ ก็จะมี Sandwich และ Cashier แยกกันกับทาง Front ชัดเจน ยกเว้น Grill Station และ Fried Station ที่จะใช้ร่วมกันค่ะ ดังนั้นคนทำ Grill และ เฟรนซ์ฟรายต้องรวดเร็วและทึกมากๆ เพราะช่วงกลางวันเนี่ย ต้องทำป้อนทั้ง Front ทั้ง Drive Through แทบจะไม่ได้หยุดหายใจกันเลยทีเดียว (อารมณ์ประมาณว่าใส่หูฟังอยู่ หูซ้ายฟัง Drive Through และ หูขวาคอยฟัง Front นั่นแหละคะ)
หลังจากที่เป็นคนทอดเฟรนซ์ฟรายอยู่พักใหญ่ๆ ผู้จัดการก็เมตตา (ฮ่าๆ) ให้เราได้ลองมาทำในส่วนของ Cashier ตรง Window Drive Through อยากบอกว่าตอนแรกเราคิดว่ามันยากมากๆๆ เพราะมันต้องทำให้รวดเร็วและถูกต้อง กล่าวทักทาย คิดเงิน ทอนเงิน ส่งของให้ลูกค้า ต้องเร็วมากๆๆ เพราะจะมีคนคอยกดดัน มีการจับเวลา และแถวรถที่ต่อกันยาวเหยียด ช่วงแรกเราทำเงินหายไปวันละ $10 ให้ของลูกค้าไม่ครบจนลูกค้าขับรถกลับมาด่า (ฮ่าๆ) ทอนเงินผิดๆถูกๆ โดนเรียกไปดุต่างๆนาๆ แต่หลังจากนั้นเราก็ค่อยๆเรียนรู้ จนเริ่มชินกับมัน และสามารถทำลายสถิติ กลายเป็นทีม Drive Through ที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดถึง 2 ครั้ง! (ครั้งแรกคือทำลายสถิติคนอื่น ครั้งที่สองคือทำลายสถิติตัวเอง)
ดังนั้น ก็อยากบอกว่า คนเราไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด เราทุกคนสามารถทำผิดได้ อยู่ที่ว่าเราเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้นมากแค่ไหน ต้องรู้จักอดทน อยู่บ้านเราสบาย แต่อยู่ที่โน่นไม่มีคำว่าสบายนะคะ เราคิดยังไงกับพนักงาน Mc,KFC หรือฟาสฟู้ดอื่นๆในบ้านเรา คนที่โน่นบางคนเค้าก็คิดกับเราแบบนั้น เราอาจจะโดนลูกค้าด่า โดนหัวหน้าดุ โดนเพื่อนร่วมงานแกล้ง ขอแค่อย่างเดียวคือรู้จัก "อดทน" แล้วเราจะผ่านสิ่งต่างๆเหล่านั้นมาได้อย่างแน่นอนค่ะ (เดี๋ยวไว้จะเล่าให้ฟังว่าเพื่อนร่วมงานในร้านช่วงแรกๆเค้าแสบกะเราแค่ไหน!)
สำหรับเรื่องงาน Back of house ของ Wendy's ยังไม่หมดนะคะ ไว้เอนทรี่หน้าจะเขียนต่อเกี่ยวกับเรื่องของงาน Back of Back of House!? อย่าลืมติดตามนะคะ :)
Comments
Post a Comment