I'M HERE...USA!

การเดินทางผ่านด่านต.มของสนามบิน JFK เป็นไปอย่างเรียบร้อย เราไม่โดนตรวจรื้อ ค้นกระเป๋าใดๆทั้งสิ้น แค่ตอบคำถามนิดๆหน่อยๆ เจ้าหน้าที่ก็ให้เราผ่านมาได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็เดินออกมารวมพลกันอยู่ที่ประดูด้านหน้าฝั่งขาเข้า เพื่อรอพี่จากเอเจนซี่มารับ เมื่อมากันครบ พี่จากเอเจนซี่ก็พาเราไปขึ้นรถทัวร์ ขอเรียกว่ารถทัวร์จีน (เพราะว่าคนขับเป็นคนจีน) ออกเดินทางจากสนามบินไปสู่ Port Authority Bus Teminal ใจกลางกรุงนิวยอร์ค ระหว่างทางก็ได้เห็นสภาพแวดล้อมข้างทางจากสนามบิน เข้าสู่ตัวเมืองที่มีตึกสูงระฟ้ามากมาย ผ่าน The new york palace Hotel ที่ใช้เป็นฉากนึงในซีรีย์สุดฮิต Gossip Girl อีกด้วย 



เมื่อถึงที่หมาย เราและเพื่อนก็ช่วยกันขนกระเป๋าสัมภาระเข้าไปภายในTeminal บรรยากาศเหมือนท่ารถหมอชิต เอกมัย ประมาณนั้น แต่ดูจะไฮโซกว่า เพราะเต็มไปด้วยร้านรวงมากมายทั้งร้านสะดวกซื้อแบบ 7-11 ไปจนถึงร้านขายอาหารฟาสฟู๊ดและเบเกอร์รี่ และผู้คนก็ดูทางใครทางมัน ไม่มีใครยิ้นแย้ม ดูเป็นมิตรเหมือนบ้านเราเลย

เรายืนตื่นตาตื่นใจกับภาพตรงหน้าอยู่สักพักพวกเพื่อนๆก็มาเรียกให้ไปรวมตัวกันให้เป็นกลุ่ม เนื่องจากนิวยอร์คไม่ใช่เมืองที่ปลอดภัยเท่าใดนัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ดูไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างพวกเราๆ

เรายืนรอกันอยู่นานพอสมควร เนื่องจากพี่ที่เอเจนซี่กับเพื่อนร่วมเดินทางในกลุ่มคนนึงอาสาไปซื้อตั๋วรถทัวร์ให้ จึงมีเวลาเดินเล่นชมท่ารถแห่งนี้ เราเดินไปซื้อน้ำที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนึง ได้ยินราคาแล้วก็แอบช็อค น้ำเปล่าขวดกระจึ๊งนึงตั้งเกือบ $2 (เกือบๆ 60 บาท) เรียกได้ว่า ใครซื้อน้ำซื้อขนมมาก็ต้องแอบกินให้อิ่มก่อนเอาไปให้เพื่อนเห็นเลยทีเดียว จะเรียกว่างกก็ตามใจเถอะจ่ะ...

(ตั๋วโดยสารรถ Peter pan bus ไปเมือง Orleans,Massachusetts ราคาเที่ยวละ $60 ถ้าซื้อแบบ Round Trip หรือตั๋วไป-กลับ จะถูกกว่าเพราะเหลือแค่ $100 เท่านั้น แต่มีข้อแม้ว่าต้องจองและชำระเงินผ่านเวปไซต์เท่านั้นนะจ๊ะ!)

จากนั้นก็เดินเล่นไปตามร้านค้าต่างๆ นึกได้ว่าต้องซื้อบัตรโทรศัพท์ เพื่อใช้โทรกลับบ้าน บัตรโทรศัพท์ที่นี่มีขายเยอะมากก หลายราคา หลายแบบ ใช้โทรได้แทบทั่วโลก เราเลือกซื้อแบบโทรกลับโซนเอเชียมาราคา $10 ส่วนวิธีการโทร สำหรับเราเราว่ามันยุงยากอ่ะ ต้องกดโน่นกดนี่หลายขั้นตอน ใช้ Skype ง่ายกว่าเยอะมากๆ (ไว้จะกล่าวในตอนหน้าๆ)

อีกอย่างนึงคือ เกิดเรื่องไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ เนื่องจากทัศนะคติของคนที่นี่กับเอเชียผิวเหลืองอย่างเรา เพราะตอนแรกที่เราแบกกระเป๋ากันเข้ามาอย่างทุลักทุเล ก็เจอฝรั่งสูงอายุคนนึงเดินผ่านแล้วก็สบถใส่ให้พวกเราได้ยินประมาณว่า "คนไทยมาเล่นการพนันกันอีกแล้วสินะ" ยอมรับนะว่าได้ยินตอนแรกก็มีน้ำโหอยู่บ้าง แต่็ก็คิดในใจว่า คนไทยบางคนก็อาจมาสร้างภาพลักษณ์แบบนั้นจริงๆ เพราะฉะนั้นจะโทษใครได้ ในเมื่อปลาเน่าตัวเดียวมันก็ย่อมเหม็นไปทั้งข้อง!



ระหว่างที่เรากำลังยืนรออยู่นั้น ผู้หญิงท่าทางน่ากลัว แต่งตัวมอมแมม ผิวสีคนนึงก็เดินตรงเข้ามาทางพวกเรา พร้อมกับเอ่ยปากขอเงิน 1เหรียญจากน้องคนนึงในกลุ่ม เราได้แต่มองหน้ากันแล้วก็คิดในใจ "นี่สินะ พวก Homeless(พวกไร้บ้าน) ตัวเป็นๆ" น้องคนนั้นทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจะเจอแอคแทคอย่างจังแบบนี้ จึงได้แต่เดินเลี่ยงไป ผู้หญิงคนนั้นดูท่าทางจะเคืองนิดๆที่ไม่ได้เงิน จึงออกท่าทางหัวเสีย และทำท่าถลึงตาน่ากลัว ใจเราแอบคิดว่า กลัวเค้าจะวิ่งเข้ามากระชากกระเป๋า....แต่ไม่...ผู้หญิงคนนั้นได้แค่ตระโกนใส่กลุ่มพวกเราด้วยเสียงดังลั่น Bus Teminal ว่า "FUCK YOU!" พร้อมกับเดินจากไป..เหลือไว้แต่ความงุงงงของกลุ่มเด็กไทยว่า "นี่กูมาเมกาไม่ถึงวันกูโดนฟั๊คซะแล้วววว T_T"

จากนั้นไม่นาน พี่จากเอเจนซี่และเพื่อนในกลุ่มที่อาสาไปซื้อตั๋วรถโดยสารก็วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมา พร้อมบอกว่าให้รีบขนกระเ้ป๋าไปเทอมินอลฝั่งตรงข้ามให้เร็วที่สุด เนื่องจากอีก 30 นาทีรถจะออก เมื่อได้ยินดังนั้น เรากับเพื่อนก็ไม่รอช้า แบกเป้ขึ้นหลัง พร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ยักษ์ 2 ใบ (ใบละ 25 กิโล) วิ่งแบบไม่คิดชีวิต! เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองมีพละกำลังขนาดนี้ก็ตอนนี้นี่แหละ คิดแล้วก็ขำตัวเอง...

ระหว่างทางที่วิ่งก็จะมีพวก Homeless มาเสนอตัวช่วยขนกระเป๋าบ้างล่ะ ช่วยนำทางไปบ้างล่ะ เราเจอประมาณ 2 คนได้ คนแรกเข้ามาช่วยขนกระเป๋า เนื่องจากเราต้องขนลงบันได แล้วเอาลงพร้อมกัน 2 ใบไม่ได้ เราเลยต้องขนทีละใบ พอเห็นคุณลุงเค้าเดินเข้ามาถามว่าให้ช่วยมั๊ย ด้วยความดีใจว่าเออมีคนช่วยแล้วนะ ก็เลยรีบตอบตกลงไป ที่ไหนได้ พอขนลงไปเสร็จ ลุงแกหันมาบอกว่า ทั้งหมด $2 นะ เรานี่ได้แต่ยืนเหวอ จำใจควักเงินจ่ายไป ไม่น่าเลยจริงๆ.....

ประตูทางขึ้นรถของเราอยู่ที่เบอร์ 17 น้องๆผู้ชายบางคนที่ขนเสร็จแล้วก็วิ่งกลับมาช่วยเราและเพื่อนๆคนอื่นที่เป็นผู้หญิง ที่สำคัญ ฟรี!ย่ะ นี่แหละนะ น้ำใจของคนไทย ขนาดคนไม่เคยรู้จักกันแท้ๆนะเนี่ย :)

หลังจากทุกคนมาถึงประตูเบอร์ 17 เป็นที่เรียบร้อย พี่จากเอเจนซี่ก็เดินเข้าไปคุยกับคนขับรถบัส พร้อมกับทำหน้าจ๋อยออกมาและบอกเสียงอ่อยๆว่า เหลือที่นั่งว่างอีกแค่ 1 ทีีเท่านั้น! จะบ้าตาย...เหลือว่าง 1 ที่ กับกลุ่มคนเกิน 10 คนเนี่ยนะ! ตอนแรกก็ตกใจกันเพราะว่าเราซื้อตั๋วไว้เที่ยวนี้นิ่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เกิดข้อผิดพลาดหรือปล่าว? แต่พอมาอ่านเงื่อนไขบนตั๋วดีๆก็ถึงบางอ้อ คือที่ระบุวันและเวลาเที่ยวนี้ได้เพราะว่า เริ่มต้นใช้ได้กับรถเที่ยวนี้เป็นต้นไป ตั๋วมีระยะเวลา 1 ปี คือง่ายๆว่า หลังจากเที่ยวที่ระบุบนตั๋ว คุณจะนั่งรอบไห้ก็ได้เลือกเอาภายในเวลา 1 ปีจากวันที่ออกตั๋ว พอถึงบางอ้อ ก็มองหน้ากันหงิงๆ เพราะรถที่เพิ่งจะออกไปด้วยที่นั่งเหลือเพียง 1 ที่นั้น เป็นรถรอบสุดท้ายของวันที่จะออกเดินทางไปจุดหมายปลายทางของเรา! แล้วที่นี่เราจะทำยังไง? พูดง่ายๆก็คือต้องค้างคืนที่นิวยอร์ค 1 คืน! แล้วจะไปนอนที่ไหน? ฟ้าก็เริ่มมืดขึ้นๆ เมกาวันแรก เมืองที่ไม่รู้จัก ภาษาที่บางทีก็ฟังทันบางทีก็ฟังไม่ทัน! แล้วเราจะทำยังไงกันต่อไปปปปปป........???

Comments

Popular Posts